Sunday 18 May 2014

DIY: แชมพูและครีมนวดสมุนไพร ทำใช้เองไม่ยาก



เราได้ทำน้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ และน้ำหมักต่างๆ ใช้เองมากว่า ๗ ปีแล้ว และก็ยังทำครีมบำรุงผิว มีสบู่เหลว castile soap แชมพู เพราะด้วยความตั้งใจที่จะลดการใช้สารเคมีในบ้าน โชคดีที่รอบบ้านของเรา (และเพื่อนบ้าน) มีสมุนไพรสดหลายชนิด ทั้งว่านหางจระเข้ อัญชัน มะกรูด มะรุม ฯลฯ ก็เลยได้ทดลองผิด ทดลองถูกตามประสานักปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมอิสระ โดยมีพ่อโทนี่ตัวดำ ฟันขาวเป็นหนูทดลอง คราวที่แล้วทดลองทำน้ำมะกรูดสระผมปรากฎว่าเราใช้แล้วไม่ถูกกัน แต่พี่โทนี่ใช้แล้วผมไม่ร่วง หัวไม่ล้าน คราวนี้เลยทำแชมพูและครีมนวดสูตรอ่อนโยน คือ แชมพูว่านหางจระเข้และมะกรูด กับ ครีมนวดผมน้ำมันมะกอกผสมอัญชัน เราเชื่อว่าการผสมน้ำยาต่างๆ ก็เหมือนกับการทำกับข้าว ไม่มีสูตรตายตัว ให้ปรับใช้ตามความเหมาะสม ที่สำคัญคือเราต้องเข้าใจคุณสมบัติของส่วนผสมแต่ละตัว เรามาทำความเข้าใจกันว่าส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ทำแชมพูมีคุณสมบัติอะไร
น้ำว่านหางจระเข้และน้ำมะกรูด 

Texapon N-8000

ผงฟอง
- Texapon N-8000 หรือ Sodium Lauryl ether sulphate (SLES) ความเข้มข้น ๒๘% คือ สารลดแรงตึงผิวประจุลบ มีหน้าที่เป็นสารทำความสะอาดต่างๆ ทำจากมาจากปาล์มน้ำมัน ปัจจุบันนี้ ใช้ Lauryl Betaine แทนซึ่งจะมีความอ่อนละมุนกว่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยเพราะสามารถย่อยสลายได้ ไม่มีสารตกค้างเมื่อปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม
- ผงข้นใส่ให้น้ำยาข้นขึ้น ซึ่งเกลือก็มีคุณสมบัติช่วยให้น้ำยาข้นเหมือนกัน แต่ไม่ควรใส่เยอะเกินไป

ลาโนลีน
- ลาโนลีนเป็นน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ในขนแกะ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องแกะ จากสภาพลมฝน และปกป้องขนแกะไม่ให้เกิดอาการแห้งกรอบ น้ำมันลาโนลินดังกล่าวนี้ สกัดได้จากขนแกะดิบ- ว่านหางจระเข้ (Aloe barbadensis Mill.) ช่วยเคลือบเส้นผม เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมมีน้ำหนักไม่แห้งแตกปลาย วุ้นของว่านหางจระเข้ทำให้รากผมเย็น เป็นการช่วยบำรุงต่อมที่รากผมให้มีสุขภาพดี ผมจึงดกดำเป็นเงางาม เวลานำว่านหางจระเข้มาใช้ต้องปอกเปลือกและล้างส่วนที่เป็นยางสีเหลืองออกให้หมดก่อนเพราะมีฤทธิ์ระคายเคืองจากเนื้อเยื่อ
- น้ำมะกรูด( Kaffir Lime) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus x hystrix L.ทำให้ผมดกเงางาม ป้องกันผมหงอกช้วยล้างสารเคมีบนเส้นผม รักษารังแคและชันตุ


แชมพูว่านหางจระเข้และมะกรูด

ส่วนผสม
๑. ว่านหางจระเข้ปั่น ๑ – ๒ ถ้วยตวง
๒. น้ำมะกรูด ๑ ถ้วยตวง
๓. น้ำสะอาด ๑ – ๑.๕ ลิตร (เราใช้น้ำกลั่นสมุนไพรฤทธิ์เย็นผสมด้วย)
๔. น้ำมันหอมระเหย ๑๐ – ๑๒ หยด (เลือกกลิ่นที่ชอบ) หรือน้ำหอม ๒๕ ซีซี
๕. Texapon N-8000 ๑ – ๑.๕ ถ้วยตวง หรือ Lauryl Betaine (อ่อนละมุนกว่า)
๖. ลาโนลีนเม็ด ๑ ถ้วยตวง
๗. ผงข้น ๐.๕ ถ้วยตวง (ถ้าไม่มีให้ใช้เกลือป่นแทน)
๘. ผงฟอง ๑ ถ้วยตวง (ถ้าไม่มีไม่เป็นไร) 

วิธีปรุง

- เริ่มจากเตรียมน้ำสมุนไพรสด โดยเก็บสมุนไพรมาเตรียมทำส่วนผสม ปอกว่านหางจระเข้แล้วล้างให้สะอาด ปั่นแล้วกรองเอากากออก ๑ ถ้วย เอามะกรูดปอกเปลือก เอาผิวมะกรูดปั่นผสมน้ำ ๑ ถ้วย เข้าไมโครเวฟสัก ๖ นาที จนน้ำมันออก หรือจะเอาไปต้มก็ได้นะ กรอกเอาแต่น้ำ- นำน้ำสมุนไพรและน้ำสะอาด ตั้งไฟกลางต้มจนร้อนแล้วเติมลาโนลีน คนให้เข้ากันจนลาโนลีนละลาย ยกลงจากเตา- เติมผงฟองและ N-8000 คนจนส่วนผสมเข้ากัน ทิ้งไว้จนเย็นแล้วจึงเติมผงข้น หรือเกลือเพื่อทำให้แชมพูข้นขึ้น- ใส่น้ำมันหอมระเหยแท้กลิ่นที่ชอบหรือหัวน้ำหอม ทิ้งไว้จนฟองยุบแล้วกรอกลงขวดแก้วที่ต้มน้ำร้อนฆ่าเชื้อแล้ว (จะอธิบายตอนท้ายว่าทำไมถึงใช้ขวดแก้ว)





ครีมนวดผมน้ำมันมะกอกและดอกอัญชัน


คาโคล 60 และ Rinse Compound 

ส่วนผสมหลักของครีมนวดผมมีสารเคมีที่ปลอดภัยต่อผิวหนังสองอย่างคือ

Rinse Compound หรือ ชื่อเคมีว่า Cetrimonium Chloride (Carsoquat CT 429) คือ สารตั้งต้นทำให้เกิดครีม และ คาโคล ๖๐ หรือ Cetyl Alcohol คือ สารเพิ่มเนื้อในครีมนวด


ส่วนผสม

๑. Rinse Compound CT 429 1 ออนซ์
๒. คาโคล ๖๐ ๑ ขีด
๓. น้ำสะอาด ๒ – ๓ ลิตร
๔. น้ำอัญชัญ ๒ ออนซ์
๕. น้ำมันมะกอก ๒ ช้อนโต๊ะ หรือ วิตามิน อี
๖. น้ำมันงาหีบเย็น ๑ ช้อนโต๊ะ (ถ้ามี)
๗. น้ำมันหอมระเหย ๑๐ – ๑๕ หยด

วิธีปรุง
- นำน้ำสะอาดต้มไฟอ่อนจนร้อน เติม RINES COMPOUND CT-429 และ คาโคล 60 คนให้เข้ากันจนละลายแล้วเติมยกขึ้นตั้งบนเตา เติมน้ำมันมะกอกและน้ำมันงาหีบเย็นลงไป คนให้เข้ากัน- คนต่อไปเรื่อยๆ จนเนื้อครีมข้นขึ้น พอเนื้อครีมเย็นลงก็เติมน้ำอัญชัน น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำหอม
- ถ้าเนื้อครีมข้นไปให้เติมน้ำสะอาดเพิ่มแล้วคนให้เข้ากัน- แบ่งครีมนวดผมใส่ขวดเล็กมาใช้ ส่วนครีมที่เหลือบรรจุขวดแก้วนำใส่ตู้เย็นเพราะไม่ได้ใส่สารกันบูด
- จากสูตรนี้จะได้เนื้อครีมนวดผมประมาณ ๒ – ๓ กิโลกรัม



 
กวนเนื้อครีมนวดผมจนกว่าจะข้นจนเป็นครีม (ภาพขวามือ)

.........................................................................................................

ทำไมถึงใช้ขวดหรือภาชนะบรรจุที่เป็นแก้ว?


 เมื่อขวดพลาสติกโดนความร้อนผ่านนิดเดียวก็จะนิ่มและเปลี่ยนรูป

เนื่องจากเราพยายามลดการใช้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้านเรา แต่ก็ยังปฎิเสธไม่ได้ว่ายังคงใช้ส่วนผสมตั้งต้นที่ทำจากเคมีที่ปลอดภัยต่อผิวหนัง ในอนาคตเราตั้งใจจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้สารเคมีให้ได้เรื่องของภาชนะบรรจุก็มีส่วนสำคัญเพราะส่วนใหญ่เราคุ้นเคยกับภาชนะบรรจุแชมพูและครีมนวดที่ทำจากพลาสติกชนิดต่างๆ แต่รู้ไหมว่าหากนำพลาสติกไปถูกความร้อนจะเกิดอะไรขึ้น? สารเคลือบพลาสติกมีสารตัวหนึ่งชื่อ Bisphenol A (BPA) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ขวดพลาสติกมีความใส แต่มันจะละลายผสมกับของเหลวที่บรรจุอยู่ในขวดเมื่อถูกความร้อนหรือแสงแดดนานๆ สาร BPA จะกรองออกและแทรกซึมลงในของเหลวและอาหารที่บรรจุอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอันตรายต่อมนุษย์ ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เราได้นำขวดแชมพูเก่ามาลวกน้ำร้อน แค่หย่อนขวดลงไป ขวดแชมพูพลาสติกก็ละลายเปลี่ยนรูปทรงเลย เราเลยตัดสินใจบรรจุแชมพูและครีมนวดผมลงในขวดน้ำมันมะกอกเก่า ขวดน้ำจิ้มเก่าแทน
แม้ว่าบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากแก้วจะหนักกว่า แต่ก็ปลอดภัย ใช้ซ้ำได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แค่นำไปต้มในน้ำเดือดสัก ๑๐ นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรค เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าทิ้งขวกน้ำจิ้ม ขวดแยมผลไม้เก่า ล้างทำความสะอาดและต้มฆ่าเชื้อโรคก่อนใช้ทุกครั้ง เพียงเท่านี้เราก็ลดการปนเปื้อนสารก่อมะเร็งในแชมพูและครีมนวดของเราแล้ว
..................................................................................................................................................


ผลการทดลองใช้

ตอนเย็นหลังจากพ่อโทนี่กลับจากการปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง ก็ได้ทดลองใช้แชมพูและครีมนวดผมชุดล่าสุด ผลปรากฎว่าพ่อโทนี่บอกว่าใช้แล้วผมนุ่ม ลื่น และยุให้ทำขายเลย ตอนนี้พ่อโทนี่ได้ใช้แชมพูและครีมนวดสูตรนี้มาปีกว่าแล้ว สรุปว่าผมไม่ร่วง หัวไม่ล้านไหม เป็นที่น่าพอใจ แต่เรื่องตัวดำนี่ไม่เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด (ดำแต่กำเนิด) อิๆๆ








หมายเหตุ  เราช่วย "โครงการกรีนฟินส์" โดยการอบรมทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเอนกประสงค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมฟรี


14 comments:

  1. เก็บไว้ใช้ได้นานมั๊ยครับ

    ReplyDelete
  2. อยากได้มาใช้จังเลย ขอซื้อมาใช้ได้มั้ยคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สูตรนี้ไม่ได้ทำขายค่ะ เดือนหน้ากลางกันยายนจะทำอีกครั้ง แต่ปรับสูตรโดยใช้สารลดแรงตึงผิวตัวที่อ่อนละมุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า SLES รวมทั้งไม่ใส่ผงฟองค่ะ ส่วนครีมนวดยังทำสูตรเดิมค่ะ ถ้าทำเสร็จแล้วจะแบ่งไปให้ใช้นะคะ รบกวนส่งที่อยู่มาที่ ecocafephuket@gmail.com ส่วนวิธีการเก็บรักษาและอายุผลิตภัณฑ์ เนื่องจากไม่ได้ใส่สารกันบูดเลยเก็บไว้ในตู้เย็นแล้วแบ่งเอาออกมาใช้ครั้งละ 1-2 อาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในตู้เย็นก็เก็บได้กว่าครึ่งปีค่ะ เคยลองวางไว้ที่อุณหภูมิห้องก็เก็บได้ประมาณ 1-2 เดือนค่ะ จากนั้นกลิ่นจะเริ่มเปลี่ยนไป
      ส่วนสูตรที่ทำขายแบบ homemade คือผลิตภัณอาบน้ำและสระผม (Head & Body Wash) โดยตั้งใจจะรณรงค์ให้ร้านดำน้ำใช้เพื่อลดการปล่อยของเสียลงสู่ทะเลค่ะ ฝากร้านเพื่อนขายที่เกาะเต่า (New Heaven Dive School) และที่ภูเก็ต (The Sea Co-working Space)

      Delete
  3. อยากได้มาใช้จังคะ เสียดาย แถวบ้านไม่มีไม้สมุนไพร

    ReplyDelete
  4. อยากลองทำดู ส่วนผสม ซื้อที่ไหนได้คะ

    ReplyDelete
  5. แล้วถ้าจะสั่งซื้อแชมพู สั่งได้ไหม สักชุดนึง พร้อมครีมบำรุงค่ะ แอดเฟส ได้ไหมคะ ชอบซื้อ ชอบขาย ความงาม หรือไลน์ ying197y

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้ายังไม่เคยทำให้ทดลองแบบที่เป็นชุดสำเร็จรูปก่อนค่ะ ตามปฐมอโศก หรือร้านค้ามังสะวิรัตของเครืออโศกจะมีขายในราคาเป็นธรรม พอค้นกับการทดลองทำเองแล้ว ก็ให้ศึกษาสารลดแรงตึงผิวประเภทต่างๆ และเข้าใจคุณสมบัติของส่วนผสมแต่ละอย่างที่เราใส่ พยายามลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก (ผงฟอง ผงข้น สี กลิ่น สารกันบูด) แล้วลองปรับให้เป็นสูตรของเปลี่ยนสารลอแรงตึงผิวแทนตัว N-70, N-8000 มาใช้ตัวที่อ่อนละมุนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น lauryl betaine หรือตระกูล Lauryl Glucocide บางตัว โดยต้องปรึกษาผู้จำหน่ายก่อนซื้อ หรืออาจจะลองหาข็อมูลตามเว็บไซต์เคมีภัณฑ์ที่มีขายชุดทำความสะอาดผิวก็ได้ค่ะ ต้องค่อยๆ ทำและเรียนรู้ไปนะคะ ทั้งนี้ต้องเข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่า "ฟอง" ไม่ได้เป็นตัวที่ช่วยให้สะอาดมากขึ้น ไม่มีฟอง หรือมีฟองน้อยก็สะอาดและปลอดภัยต่อคน ต่อสิ่งแวดล้อมได้ ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่เราเลือกใช้มากกว่า

      ส่วนเรื่องทำแล้วเก็บได้นานเท่าไหร่ ? เมื่อเราเลือกที่จะไม่ใส่สารกันบูด อายุผลิตภัณฑ์ก็จะสั้นลง ถ้าไม่มีส่วนผสมของสมุนไพรมากนักก็เก็บไว้ได้นานขึ้น แนะนำว่าควรทำทีละน้อย แล้วเก็บใส่ตู้เย็น เคยลองทำแชมพูและครีมนวดสมุนไพรอัญชัน แล้วไม่ได้ใส่ตู้เย็นก็อยู่ได้ประมาณสามเดือน ถ้าไม่ใส่ส่วนผสมสมุนไพรเลยและใช้แต่น้ำมันหอมระเหยเพิ่มกลิ่นอโรมาก็เก็บไว้ได้เป็นครึ่งปี แต่ต้องมั่นใจว่าเวลาผสมและบรรจุจะต้องสะอาดจริงๆ ยินดีแนะนำ

      Delete
  6. With the change in fast moving lifestyle we have the latest Euronics ABS hand dryer which helps you get your hands dried in just 10 seconds. I have installed one in my dining hall area which is next to the wash basin area so that my guests could get their hands dried with great ease.

    http://www.mycleaningstore.in/abs-hand-dryer

    Euronics ABS Hand Dryer

    ReplyDelete
  7. น่าสนใจมากคะ แล้วจะกลับไปลองทำดู
    ..อยากสอบถามเพิ่มเติมหน่อยคะ
    - เราจะสามารถหาซื่อส่วนผสมต่างๆได้จากที่ไหนคะ ??
    - พอจะมีสูตรการทำสบู่สมุนไพรมั้ยคะ ?
    ขอบคุณคะ..

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอโทษค่ะที่ตอบช้ามาก ไม่ได้เข้ามาดูแลเพจเลย ลองหาตามอินเตอร์เน็ตก่อนก็ได้ค่ะโดยใช้เสริ์จจากชื่อสารตั้งต้นนั้นๆ ทดลองจำนวนน้อยๆ ก่อนนะคะ ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวสันติอโศก ปฐมอโศก ก็ซื้อที่นั่นจะดีมากค่ะเพราะราคาเป็นธรรม แต่จะมีขายบางตัวนะคะ เช่น ซักผ้า สารตั้งต้นสำหรับทำน้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์

      Delete
  8. สอบถามหน่อยครับผมลองทำครีมนวดดูแล้วเค้าไม่ข้นเหมือนในรูปควรแก้ไขอย่างไรครับ อีกอย่างมีเม็ดเล็กสากๆมือน่าจะเกิดจากตัวคาโคล60ละลายไม่หมดหรือป่าวมีวิธีแก้ป่าวครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าผสมน้ำมากและกวนไม่นานพอก็จะไม่ข้นค่ะ แต่ทั้งนี้สามารถใช้ได้เหมือนกันค่ะเพราะคุณสมบัติยังเหมือนเดิม(ผมนุ่ม ไม่พันกัน) ถ้าไม่ได้ใส่สารกันบูดก็ควรเก็บไว้ในตู้เย็นและอย่าทำครั้งละมากๆ ส่วนเม็ดเล็กน่าจะเป็นเพราะคาโคลละลายไม่หมด ยังไม่เคยเจอปัญหานี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร อาจจะทดลองแบ่งบางส่วนเอาไปผ่านความร้อนอีกครั้งแล้วกวนให้เข้ากันดูนะคะ

      Delete
  9. ซื้อสารเคมีที่เป็นมิตรนี่มีร้านไหนขายบ้างค่ะที่สุรินทร์ไม่มีเลยค่ะ

    ReplyDelete
  10. ขอสอบถามหน่อยนะคะ เวลาวางทิ้งไว้นานๆ แล้วจะมีขุยๆก้นขวดแบบนี้ คือเป็นปกติที่จะตกตะกอนรึเปล่าคะ ถ้ากลิ่นไม่เปลี่ยน คือไม่เสียใช่ไหมคะ พอดีว่าซื้อมา แล้วเพิ่งได้รับพัสดุ เห็นเป็นตะกอนแล้วไม่กล้าใช้ค่ะ ขอบคุณมากนะค้า

    ReplyDelete